วันพฤหัสบดีที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๖๘ เวลา ๑๒.๔๕ น.
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงมีพระบัญชาให้ สมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนใต้ ปฏิบัติหน้าที่แทนพระองค์ เป็นประธานในพิธีทรงตั้งเปรียญธรรม ๓ ประโยค และมอบประกาศนียบัตร ประโยค ๑-๒ แก่พระภิกษุสามเณรในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ ประจำปีพุทธศักราช ๒๕๖๘ จำนวน ๑๑๓ รูป
โดยมี รศ.ชัชพล ไชยพร นักวิชาการศาสนาเชี่ยวชาญ รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ปฏิบัติหน้าที่แทนผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กล่าวถวายรายงาน พร้อมด้วย ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดในเขตปกครองคณะสงฆ์หนใต้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมปฏิบัติงานพิธี นายวิทยา เขียวรอด รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช หัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครศรีธรรมราช และพุทธศาสนิกชน ร่วมพิธีเป็นจำนวนมาก ณ วัดเจดีย์ อำเภอสิชล จังหวัดนครศรีธรรมราช ทั้งนี้ นางสาวอมร สะอาด ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยะลา พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ เข้าร่วมพิธีและปฏิบัติงานพิธี ในการนี้ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ ได้เชิญพระโอวาท สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มายังพระภิกษุสามเณรที่สอบได้ ใจความส่วนหนึ่งว่า "...สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระพุทธดำรัสไว้ว่า "ธรรมและวินัยอันใด เราแสดงแล้ว บัญญัติแล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาของพวกเธอ โดยกาลอันล่วงไปแห่งเรา" เพราะฉะนั้น จึงอาจกล่าวได้ว่า พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาที่ยังคงมีพระศาสดาเสด็จอยู่ แม้ไม่ใช่ด้วยพระรูปกาย หากแต่ยังทรงดำรงอยู่อย่างแน่แท้ด้วยพระพุทธคุณอันปรากฏให้พุทธบริษัททั้งหลายสามารถเข้าถึงได้ ก็ด้วยการรู้แจ้งแทงตลอด ในพระสัทธรรม ที่ทรงแสดงไว้ดีแล้วบูรพาจารย์คณะสงฆ์ไทยอุตสาหะพากเพียรสรรค์สร้างระบบการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลีไว้ก็เพื่อให้พระภิกษุสามเณรได้เข้าถึงพระสัทธรรมด้วยความเข้าใจกระจ่างแจ้งในอรรถะและพยัญชนะแห่งพระไตรปิฎกและพระคัมภีร์ทางพระพุทธศาสนาในมคธภาษา ผู้ศึกษาพระบาลีจึงมีหน้าที่ที่จะต้องเป็นกำลังสำคัญในการชี้แจง โต้แย้ง แก้ไข บรรดาคำอธิบายอันอุตริหรือทัศนะอันเป็นอัตโนมตินอกแบบของบรรดาผู้ไม่รู้จริงหรือผู้ประมาทในการศึกษา แล้วกระทำอกุศลกรรมอันร้ายกาจ คือการกระทำสัทธรรมปฏิรูป และการทำลายความน่าเชื่อถือของคณะสงฆ์ไทย ในการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมอย่างไรก็ดี การที่ท่านจะทำหน้าที่รักษาพระศาสนาได้เช่นนั้น ท่านมหาเปรียญ จำเป็นต้องศึกษา วิจัย ทำความเข้าใจ ปฏิบัติ และเผยแผ่พระธรรมวินัยในพระไตรปิฎก อันเป็นเครื่องยืนยันความมีอยู่ของพระพุทธศาสนา และพระบรมศาสดา ให้สมกับเจตนารมณ์ของการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ที่ท่านได้สำเร็จตามหลักสูตรมาแล้ว ขอจงอย่าได้หยุดอยู่เพียงความรู้ทางภาษา แต่ขอให้ตั้งปณิธานที่จะมีสติปัญญา โดยรู้รอบและรู้ลึกในพระพุทธธรรมให้จงได้..."
สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดยะลา ขอน้อมถวายมุทิตา แด่พระภิกษุ สามเณร ทุกรูป ในโอกาสอันเป็นมงคลนี้